วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

* - การดูแลสุขภาพจิต - *ทคนิคที่จะทำให้สุขภาพจิตดีมีมากมาย วิธีหนึ่งคนนึง ใช้ได้ผลแต่อีกคนหนึ่งใช้ไม่ได้ก็ต้องเลือกเอาเองว่าจะใช้วิธีใดใช้แล้วดี

อย่าหัดเป็นคนช่างคิด
มีอะไรก็คิดมากไปหมดแล้วหมกมุ่นเกินเหตุอย่างนี้จะนำไปสู่ความเครียดเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนอกจากความทุกข์ และสุขภาพจิตเสียแก่เร็ว แต่ไม่ใช่ทำอะไรโดยไม่คิดนะ คนละอย่าง

ไม่ตั้งความหวังไว้สูง ๆ
ทำอะไรต้องดี ทำอะไรต้องสำเร็จ ทำอะไรต้องได้ดั่งใจอย่างนี้ไม่ดีเลยต่อตัวเอง
เพราะสุขภาพจิตเสื่อมเปล่า ๆควรตั้งความหวังไว้แต่ไม่ใช่จริงจังนัก หวังโดย
มีสติดูสภาพความเป็นไปได้ เช่น ตั้งใจมีเงินพอใช้สบาย ๆ ตั้งใจเรียนให้จบปริญญา
ถ้าทำได้ ไม่ใช่ตั้งใจเป็นนางสาวไทย เป็นพระเอกหนังทั้ง ๆ ที่หน้าตาอย่าง
กับปิศาจอย่างนี้เรียกว่าตั้งความหวังโดยขาดสติ หากไม่ตั้งความหวังเลย
ชีวิตก็จะล่องลอยไร้เป้าหมายก็จะทุกข์ใจอีกแต่จะทุกข์ตอนอายุมากเพราะเริ่มลำบาก
ยากจน ดังนั้น ทุกคนควรมีความหวังแต่อย่าหวังอะไรจนเกินพอดีก็จะทุกข์ใจได้

มองโลกในแง่ดีเสมอ
เช่น ถูกเอาเปรียบ รังแก กลั่นแกล้ง ก็ให้คิดเสียว่าเป็นธรรมดาของสัตว์โลก ช่างหัวมันเถอะเราไม่ทุกข์ใจก็พอ เพราะถ้าเราทุกข์ใจเรื่องยิ่งบานปลายถูกรังแก
ยังทุกข์ใจเข้าไปอีก มองในสิ่งดี ของคนอื่นมาก ๆ จะทำให้ชีวิตสดใส เงินไม่พอใช้ก็มอง
ว่าดีเหมือนกันจะได้รู้จักรสชาติของความจน พยายามมองทุกสิ่งใน
โลกนี้ว่าเป็นเรื่องปกติเสียก็สิ้นเรื่อง

หัวเราะบ่อย ๆ
คุยตลก ดูตลก หาการ์ตูนขำขันอ่านบ้าง ทำอะไรก็ได้ ที่มันทำให้หัวเราะ การหัวเราะช่วยบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าช่วยให้แก่ช้า สดใส บางคนเข้าใจผิด
ว่าหัวเราะทำให้เกิดรอยย่นตรงนั้นตรงนี้ ยิ้มกว้างก็กลัวย่น ทุกวันนี้คนหัวเราะ
ง่ายจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะสภาพแวดล้อมไม่ดีมีมากขึ้น

ฝึกนั่งสมาธิ
หมายถึงนั่งทำใจให้ว่างเปล่า เพื่อเป็นการช่วยเสริมสุขภาพจิตและผ่อนคลาย
ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ สามารถทำได้ทุกศาสนาเพราะไม่ใช่พิธีกรรมทางศาสนา แต่เป็นวิธีปฏิบัติตามปกติที่สามารถช่วยทำให้จิตใจสงบและนิ่ง วันหนึ่ง 10-30 นาทีก็ยังดี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น